
รูปาวจรจิต คือ จิตที่บรรลุถึงความประณีตในระดับ รูปฌาน เป็นจิตที่เกิดขึ้นแก่บุคคลผู้เจริญสมถกรรมฐานจนได้ฌานสมาบัติ และเป็นจิตของพรหมในชั้นรูปภูมิ (พรหมโลกที่มีรูป) คำว่า "รูปาวจร" แปลว่า "จิตที่ท่องเที่ยวหรือเป็นไปในรูปภูมิ" ซึ่งเป็นภพภูมิที่ประณีตกว่ากามภูมิ
ในคัมภีร์อัฏฐสาลินี ได้จำแนกรูปาวจรจิตไว้ทั้งหมด ๑๕ ดวง โดยแบ่งออกเป็น ๓ ประเภทตามชาติของจิต ได้แก่ กุศล, วิบาก, และกิริยา ซึ่งแต่ละประเภทจะสัมพันธ์กับระดับของฌาน ๕ ขั้น (ตามนัยพระอภิธรรม) ดังนี้
การจำแนกรูปาวจรจิต ๑๕ ดวง
รูปาวจรจิต ๑๕ ดวง แบ่งออกเป็น ๓ หมวด หมวดละ ๕ ดวง คือ:
- รูปาวจรกุศลจิต ๕ ดวง (มหากุศลแห่งรูปฌาน)
- รูปาวจรวิบากจิต ๕ ดวง (ผลของรูปฌานกุศล)
- รูปาวจรกิริยาจิต ๕ ดวง (จิตของพระอรหันต์ผู้เข้าฌาน)
ระดับฌาน | กุศลจิต (สำหรับปุถุชน/พระเสขะ) | วิบากจิต (ผลของกรรม/จิตปฏิสนธิ) | กิริยาจิต (สำหรับพระอรหันต์) |
---|---|---|---|
ปฐมฌาน (องค์ฌาน ๕: วิตก, วิจาร, ปีติ, สุข, เอกัคคตา) | ปฐมฌานกุศลจิต | ปฐมฌานวิบากจิต | ปฐมฌานกิริยาจิต |
ทุติยฌาน (องค์ฌาน ๔: วิจาร, ปีติ, สุข, เอกัคคตา) | ทุติยฌานกุศลจิต | ทุติยฌานวิบากจิต | ทุติยฌานกิริยาจิต |
ตติยฌาน (องค์ฌาน ๓: ปีติ, สุข, เอกัคคตา) | ตติยฌานกุศลจิต | ตติยฌานวิบากจิต | ตติยฌานกิริยาจิต |
จตุตถฌาน (องค์ฌาน ๒: สุข, เอกัคคตา) | จตุตถฌานกุศลจิต | จตุตถฌานวิบากจิต | จตุตถฌานกิริยาจิต |
ปัญจมฌาน (องค์ฌาน ๒: อุเบกขา, เอกัคคตา) | ปัญจมฌานกุศลจิต | ปัญจมฌานวิบากจิต | ปัญจมฌานกิริยาจิต |
๑. รูปาวจรกุศลจิต (๕ ดวง)
เป็นจิตฝ่ายกุศลที่เกิดขึ้นในขณะที่โยคีบุคคล (ผู้ยังเป็นปุถุชนหรือพระเสขะ) กำลังเจริญสมถกรรมฐานและเข้าถึงฌานสมาบัติในระดับต่างๆ เป็นจิตที่เป็นเหตุให้ได้ไปเกิดในรูปพรหมโลก และเป็นบาทฐานสำคัญของการเจริญวิปัสสนาต่อไป ผู้ที่ทำรูปาวจรกุศลจิตนี้ได้ เมื่อสิ้นชีวิตย่อมส่งผลให้ไปเกิดเป็นรูปพรหม ตามกำลังของฌานที่ตนบรรลุ
๒. รูปาวจรวิบากจิต (๕ ดวง)
เป็นจิตที่เป็น ผล (วิบาก) ของรูปาวจรกุศลจิตที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติ จิตประเภทนี้ทำหน้าที่ ๒ อย่างคือ:
- ปฏิสนธิ: เป็นจิตดวงแรกที่เกิดขึ้นเมื่อไปปฏิสนธิในรูปพรหมโลก
- ภวังค์ และ จุติ: ทำหน้าที่เป็นภวังคจิต (จิตที่รักษาภพ) ตลอดชีวิตในพรหมโลกนั้น และเป็นจุติจิต (จิตดวงสุดท้าย) เมื่อจะสิ้นชีวิตจากภพนั้น
รูปาวจรวิบากจิตมี ๕ ดวง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากรูปาวจรกุศลทั้ง ๕ ดวงตามลำดับ เช่น ผู้ที่ทำปฐมฌานกุศลไว้ ก็จะได้รับปฐมฌานวิบากจิตเป็นผล ไปเกิดในพรหมโลกชั้นปฐมฌานภูมิ เป็นต้น
๓. รูปาวจรกิริยาจิต (๕ ดวง)
เป็นจิตของ พระอรหันต์ เท่านั้น เมื่อท่านต้องการพักผ่อนในความสงบของฌานสมาบัติ จิตที่เข้าฌานของท่านจะเป็น กิริยาจิต คือเป็นจิตที่สักแต่ว่ากระทำ ไม่ใช่กุศลและไม่ส่งผลเป็นวิบากอีกต่อไป เพราะพระอรหันต์สิ้นอาสวกิเลสแล้ว การกระทำของท่านจึงไม่สร้างภพชาติใหม่ รูปาวจรกิริยาจิตก็มี ๕ ดวงตามระดับฌานเช่นกัน
ลักษณะสำคัญของรูปาวจรจิต
- มีอารมณ์เป็นบัญญัติ: รูปาวจรจิตมีอารมณ์ที่เกิดจากการเพ่งกรรมฐานบัญญัติ เช่น กสิณบัญญัติ (ภาพที่น้อมนึกขึ้นในใจจากการเพ่งกสิณ) หรือ อานาปานสติบัญญัติ เป็นต้น ไม่ได้มีอารมณ์เป็นกามคุณ ๕ เหมือนกามาวจรจิต
- เป็นจิตที่สงบและประณีต: เป็นจิตที่สงัดจากนิวรณ์ ๕ (กามฉันทะ, พยาบาท, ถีนมิทธะ, อุทธัจจกุกกุจจะ, วิจิกิจฉา) จึงมีความสงบ ตั้งมั่น และเปี่ยมด้วยพลัง
- เป็นบาทแห่งอภิญญา: ผู้ที่ได้ปัญจมฌานจนชำนาญ สามารถฝึกฝนเพื่อทำอภิญญา (ความสามารถพิเศษทางจิต) เช่น แสดงฤทธิ์ได้, หูทิพย์, ตาทิพย์ เป็นต้น