หลังจากที่จิตของผู้ปฏิบัติได้สงบตั้งมั่นจากกิเลสนิวรณ์ด้วยกำลังแห่งสมาธิในขั้น จิตตวิสุทธิ แล้ว ก็เปรียบเสมือนมีดที่ได้รับการลับคมจนพร้อมใช้งาน บัดนี้ การเดินทางได้เข้าสู่ภาคที่สามอันเป็นหัวใจของวิสุทธิมรรค คือ ปัญญานิเทศ โดยมีบันไดขั้นแรกคือ ทิฏฐิวิสุทธิ (Diṭṭhivisuddhi) หรือ "ความบริสุทธิ์แห่งความเห็น"
นี่คือประตูบานแรกสู่การเจริญวิปัสสนา เป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการมองโลกแบบ "คน" สู่การมองแบบ "ธรรม" อย่างแท้จริง ตามที่อธิบายใน อนัตตลักขณสูตร (SN 22.59) ที่แสดงความไม่มีตัวตนของขันธ์
เป้าหมาย: การทำลายสักกายทิฏฐิ
โดยปกติแล้ว ปุถุชนอย่างเราจะมองโลกผ่านความยึดมั่นว่ามี "ตัวเรา" เป็นศูนย์กลาง เช่น "เราเห็น", "เราได้ยิน", "เราคิด" ความเห็นผิดที่ยึดมั่นว่าขันธ์ ๕ เป็นตัวตนนี้เรียกว่า สักกายทิฏฐิ ซึ่งเป็นรากเหง้าของความทุกข์ทั้งปวง
เป้าหมายของทิฏฐิวิสุทธิ คือการใช้ปัญญาในระดับความคิดและการพิจารณา (ยังไม่ใช่ญาณโดยตรง) เพื่อทำลายความเห็นผิดนี้ และสร้าง "สัมมาทิฏฐิ" ตามที่แสดงใน ปหานสูตร (SN 22.82) ว่าสิ่งที่เรียกว่า "เรา" นั้นไม่มีอยู่จริง
เครื่องมือ: การกำหนดรู้ "รูป-นาม" (Mind and Matter)
เครื่องมือที่ใช้สร้างสัมมาทิฏฐิคือการวิเคราะห์องค์ประกอบชีวิตทั้งหมดให้เหลือเพียง ๒ ส่วนตามสภาวะความเป็นจริง คือ รูปธรรม และ นามธรรม ดังที่อธิบายใน ปฏิจจสมุปบาทสูตร (SN 12.2) ว่ารูปนามเกิดจากอวิชชาและตัณหา
๑. รูปธรรม (Rūpa - Matter)
คือส่วนวัตถุ สสาร และคุณสมบัติทางกายภาพทั้งหมด สรุปได้ที่ มหาภูตรูป ๔ (ดิน น้ำ ไฟ ลม) และรูปอาศัยธาตุเหล่านี้ เช่น ประสาทตา หู รูปที่เห็น เสียง เป็นต้น รูปธรรมไม่สามารถรับรู้อารมณ์ได้เอง
๒. นามธรรม (Nāma - Mind)
คือส่วนสภาวะทางจิต มีลักษณะเด่นคือ "การน้อมไปสู่อารมณ์" หรือรับรู้สิ่งต่างๆ จำแนกออกเป็น ๔ กองตามนามขันธ์ ๔ คือ:
- เวทนา: สภาวะเสวยอารมณ์ คือความรู้สึก สุข ทุกข์ เฉยๆ
- สัญญา: สภาวะจำหมายรู้ เช่น จำว่านี่คือสีแดง เสียงนก
- สังขาร: สภาวะปรุงแต่งจิต เช่น ศรัทธา โลภะ โทสะ
- วิญญาณ: สภาวะรู้อารมณ์ เช่น การเห็น การได้ยิน
สภาวะแห่งความบริสุทธิ์: ปัญญาที่เห็นแจ้ง
เมื่อผู้ปฏิบัติใช้สมาธิที่ตั้งมั่นเป็นฐาน แล้วพิจารณาแยกองค์ประกอบของตนเอง ปัญญาในระดับทิฏฐิวิสุทธิจะเกิดขึ้น ปัญญานี้คือความเข้าใจอย่างชัดเจนว่า:
"สิ่งที่มีอยู่จริง มีเพียงรูปธรรมและนามธรรมที่เกิด-ดับตามเหตุปัจจัย ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ที่เป็นเจ้าของหรือผู้บังคับบัญชา"
ปัญญาในขั้นนี้ในทางวิปัสสนาเรียกว่า นามรูปปริจเฉทญาณ คือญาณลำดับแรกใน วิปัสสนาญาณ ๑๖ (Kathavatthu) ที่สามารถแยกรูปนามได้อย่างถูกต้อง
บทสรุป
ทิฏฐิวิสุทธิ คือ "แผนที่ที่ถูกต้อง" สำหรับการเดินทางไปสู่ความพ้นทุกข์ เป็นการตั้งเข็มทิศทางปัญญาให้ตรงสู่พระนิพพาน เมื่อผู้ปฏิบัติมีสัมมาทิฏฐิว่าโลกนี้ประกอบด้วยรูปธรรมและนามธรรมเท่านั้น ก็ถือเป็นการทลายกำแพงแห่งความเห็นผิด และเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการปฏิบัติในขั้นต่อไป
ในหน้าถัดไป เมื่อเรามีมุมมองที่ถูกต้องแล้ว เราจะใช้ปัญญานี้สืบค้นหา "เหตุ" ของรูปนามต่อไปในสถานีที่สี่ คือ กังขาวิตรณวิสุทธิ: ปัญญาแห่งการข้ามพ้นความสงสัย