รูปกลาป (Rūpa Kalāpa) คือ กลุ่มของรูปธรรมที่เล็กที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นและดับไปพร้อมกัน เกาะกลุ่มกันอยู่ และมีปัจจัยให้เกิดร่วมกัน เปรียบเสมือน "อะตอม" แต่ในทางพระพุทธศาสนาเถรวาท อธิบายความแตกต่างที่สำคัญคือ รูปกลาปไม่ใช่หน่วยพื้นฐานที่คงที่ถาวร แต่เป็นเพียงกลุ่มของสภาวธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา (เกิดและดับตามรูปสมุฎฐาน) ​แนวคิดเรื่องรูปกลาปนี้เป็นหัวใจสำคัญในการอธิบายธรรมชาติของสสารและร่างกายในทัศนะของพระอภิธรรม

รูกลาป

🔆 องค์ประกอบของรูปกลาป

​ ​รูปกลาปหนึ่งๆ จะต้องประกอบด้วยรูปธรรมอย่างน้อย ๘ ชนิด ซึ่งเรียกว่า อวินิพโภครูป ๘ (รูปที่แยกออกจากกันไม่ได้) ได้แก่
มหาภูตรูป ๔ (ธาตุหลัก ๔):
  • ๑. ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน): สภาวะที่แข้น แข็ง อ่อน
  • ๒. อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ): สภาวะที่เอิบอาบ เกาะกุม
  • ๓. เตโชธาตุ (ธาตุไฟ): สภาวะที่ร้อน เย็น
  • ๔. วาโยธาตุ (ธาตุลม): สภาวะที่ไหวตึง เคลื่อนไหว

  • อุปาทายรูป ๔ (รูปอาศัย ๔):
  • ๕. วัณณะ (สี): สภาวะที่ปรากฏทางตา
  • ๖. คันธะ (กลิ่น): สภาวะที่ปรากฏทางจมูก
  • ๗. รสะ (รส): สภาวะที่ปรากฏทางลิ้น
  • ๘. โอชา (อาหาร): สารอาหารที่หล่อเลี้ยงกลุ่มรูป
  • ​รูปทั้ง ๘ นี้จะต้องเกิดร่วมกันเสมอในทุกๆ กลาป เปรียบเสมือนเป็นแกนกลางของสสารทั้งปวง

    🔆 ประเภทของรูปกลาป

    ​ ​คัมภีร์อัฏฐสาลินีและคัมภีร์พระอภิธรรมอื่นๆ ได้จำแนกรูปกลาปตามสมุฏฐาน (แหล่งกำเนิด) และองค์ประกอบที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือจากอวินิพโภครูป ๘ โดยรูปกลาปที่มีชื่อเสียงและเป็นพื้นฐานที่สุดคือ สุทธัฏฐกกลาป หรือ อัฏฐกลาป ซึ่งหมายถึงกลุ่มรูปบริสุทธิ์ที่มีเพียง ๘ รูปดังกล่าวข้างต้น เป็นกลาปที่เล็กและพื้นฐานที่สุด ​นอกจากนี้ยังมีกลาปอื่นๆ ที่มีองค์ประกอบเพิ่มขึ้นมา เช่น:
    ​กายทสกกลาป: คือกลุ่มรูป ๑๐ รูปที่ประกอบเป็นกายประสาท (อวินิพโภครูป ๘ + ชีวิตรูป ๑ + กายปสาทรูป ๑)
    ​​จักขุทสกกลาป: คือกลุ่มรูป ๑๐ รูปที่ประกอบเป็นจักขุประสาท (ตา)
    ​​โสตทสกกลาป: คือกลุ่มรูป ๑๐ รูปที่ประกอบเป็นโสตประสาท (หู)
    จากตัวอย่าง ​กลาปเหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม,ก้อน จนถึงอวัยวะน้อยใหญ่และร่างกายของสิ่งมีชีวิต

    🔆 ความสำคัญในทางธรรมะ

    ​ ​การทำความเข้าใจเรื่องรูปกลาปมีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงวิปัสสนากรรมฐาน เพราะเป็นการมองเห็นความจริงของรูปธรรมหรือสสารในระดับปรมัตถ์ ซึ่งนำไปสู่การเห็น ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง(รูปกลาปแต่ละกลุ่มเกิดขึ้นและดับไป ไม่มีความคงที่ถาวร) ทุกขัง(สภาวะที่เกิดขึ้นและดับไปอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสภาวะที่ทนอยู่ไม่ได้) อนัตตา(รูปกลาปเป็นเพียงกลุ่มของสภาวธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ตัวตน บุคคล หรือ "ของเรา" อย่างแท้จริง)

    ​ดังนั้น การพิจารณารูปธรรมในระดับกลาปจึงเป็นหนทางหนึ่งในการละคลายความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายและวัตถุต่างๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายอันสำคัญอย่างมากของการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา