
นิกเขปกัณฑ์
(บาลี: นิกฺเขปกณฺฑ) เป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ ธรรมสังคณีปกรณ์ ในพระอภิธรรมปิฎก ซึ่งเป็นการจำแนกและสรุปสภาวธรรมอย่างย่อ โดยคำว่า "นิกเขปกัณฑ์" มาจากคำว่า นิกฺเขป (นิกเขปะ) ที่แปลว่า "การสรุป" หรือ "การวางไว้โดยย่อ" คัมภีร์อัฎฐสาลินี ซึ่งเป็นอรรถกถาอธิบายธรรมสังคณี ได้ให้ความหมายว่า นิกเขปกัณฑ์คือการแสดงธรรมโดยย่อ โดยจำแนกธรรมตามหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น มูล (เหตุ), ขันธ์, ทวาร, ภูมิ, อรรถ, ธรรม, นาม, และลิงค์ เพื่อให้เข้าใจสภาวธรรมได้ชัดเจนและครอบคลุม ในอัฎฐสาลินี อธิบายว่า นิกเขปกัณฑ์นี้เป็นการแสดงธรรมที่ ไม่ย่อเกินไปและไม่พิสดารเกินไป เมื่อเทียบกับจิตตุปปาทกัณฑ์ (ที่พิสดาร) และอรรถกถากัณฑ์ (ที่ย่อ)โดยมีการสรุปเนื้อหาธรรมตามหมวดหมู่ เช่น:
โดยมูล: เช่น กุศลมูล 3 (อโลภะ, อโทสะ, อโมหะ)
โดยขันธ์: เช่น เวทนาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยกุศลมูล
โดยทวาร: เช่น กายกรรมที่เกิดจากกุศลมูล
โดยภูมิ: เช่น ธรรมในกามาวจร, รูปาวจร, อรูปาวจร หรือโลกุตตรภูมิ
จุดมุ่งหมายคือเพื่อให้เข้าใจธรรมในแง่มุมต่าง ๆ โดยการย่อและจำแนกให้เห็นโครงสร้างของสภาวธรรมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการจำแนกธรรมใน ติกะ (หมวด 3) และ ทุกะ (หมวด 2) เช่น กุศลติกะ (กุศล, อกุศล, อัพยากต) หรือ สังขต-อสังขตธรรม
ตัวอย่างการใช้ นิกเขปกัณฑ์ แสดงสภาวะธรรม
การจำแนกกุศลติกะ (กุศล, อกุศล, อัพยากต):สภาวะธรรม: นิกเขปกัณฑ์ใช้จำแนกจิตที่เป็นกุศล (เช่น จิตที่ประกอบด้วยเมตตา, กรุณา) อกุศล (เช่น จิตที่มีโลภะ, โทสะ) และอัพยากต (จิตที่ไม่เป็นกุศลหรืออกุศล เช่น วิบากจิต หรือกิริยาจิต) เพื่อให้เข้าใจสภาวะจิตในขณะนั้น ๆ > ตัวอย่างการนำไปใช้: ผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสามารถใช้การจำแนกนี้เพื่อพิจารณาจิตของตนเอง เช่น เมื่อเกิดความโกรธ (อกุศลจิต) จะรู้เท่าทันและพยายามเจริญเมตตา (กุศลจิต) เพื่อเปลี่ยนสภาวะจิตให้บริสุทธิ์
การจำแนกโดยทวาร (กายทวาร, วจีทวาร, มโนทวาร):
สภาวะธรรม: นิกเขปกัณฑ์แสดงว่า กรรมเกิดผ่านทวารใด เช่น กายกรรม (การกระทำทางกาย) ที่เกิดจากเจตนากุศล เช่น การให้ทาน หรืออกุศล เช่น การทำร้ายผู้อื่น > ตัวอย่างการนำไปใช้: ผู้ปฏิบัติสามารถสังเกตการกระทำของตน เช่น การพูดคำหยาบ (วจีทุจริต) เป็นอกุศลกรรมทางวาจีทวาร เมื่อรู้ตัว จะพยายามใช้คำพูดที่อ่อนโยน (กุศลกรรม) เพื่อพัฒนาวจีสุจริต
การจำแนกโดยภูมิ (กามาวจร, รูปาวจร, อรูปาวจร, โลกุตตร):
สภาวะธรรม: นิกเขปกัณฑ์จำแนกธรรมตามระดับจิต เช่น จิตในกามาวจรที่ยังยึดติดกิเลส หรือจิตในโลกุตตรที่พ้นจากกิเลส (เช่น อริยมรรค, อริยผล) ตัวอย่างการนำไปใช้: ผู้ปฏิบัติเจริญสมาธิ เช่น กสิณสมาบัติ เพื่อยกระดับจิตจากกามาวจรสู่รูปาวจร หรือปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อให้จิตเข้าถึงโลกุตตรธรรม เช่น การเห็นสภาวะอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นำไปสู่นิพพาน
ตัวอย่างการอธิบายสภาวธรรม
"กุสลา ธัมมา" แยกสภาวะธรรมตามนัยแห่งนิกเขปกัณฑ์ ครบทั้ง ๘ หมู่๑. โดยมูล (จำแนกโดยรากเหง้า)
ปุจฉา: กุศลมีรากเหง้ามาจากอะไร?
วิสัชชนา: กุศลมีรากเหง้ามาจาก อโลภะ (ความไม่โลภ), อโทสะ (ความไม่โกรธ), และ อโมหะ (ความไม่หลง, ปัญญา) เมื่อใดที่จิตมีราก ๓ อย่างนี้ประกอบอยู่ เมื่อนั้นจิตย่อมเป็นกุศล
๒. โดยขันธ์ (จำแนกโดยการรวมเป็นหมวดหมู่)
ปุจฉา: สภาพที่เป็นกุศลนั้น จัดลงในขันธ์ ๕ ได้อย่างไร?
วิสัชชนา: ความรู้สึกสุขหรือเฉยๆ ที่เกิดพร้อมกุศลจิต เป็น เวทนาขันธ์ ความจำได้หมายรู้ในอารมณ์นั้น เป็น สัญญาขันธ์ เจตสิกอื่นๆ (สภาพปรุงแต่งจิต) เช่น ศรัทธา, สติ, วิริยะ ที่เกิดพร้อมกัน เป็น สังขารขันธ์ ตัวจิตเองที่รู้อารมณ์ เป็น วิญญาณขันธ์(ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับรูปขันธ์โดยตรง)
๓. โดยทวาร (จำแนกโดยช่องทางการเกิด)
ปุจฉา: กุศลเกิดขึ้นทางไหนได้บ้าง?
วิสัชชนา: กุศลสามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง ๖ ทวาร คือ
- ทางตา เช่น เมื่อเห็นพระพุทธรูปแล้วจิตเลื่อมใส
- ทางหู เช่น เมื่อได้ฟังธรรมแล้วเกิดความเข้าใจ
- ทางจมูก เช่น เมื่อได้กลิ่นธูปเทียนบูชาพระแล้วจิตสงบ
- ทางลิ้น เช่น เมื่อกล่าววาจาที่เป็นประโยชน์
- ทางกาย เช่น เมื่อช่วยเหลือผู้อื่น, การไหว้
- ทางใจ เช่น เมื่อนึกถึงคุณของพระรัตนตรัย, การเจริญเมตตา
๔. โดยภูมิ (จำแนกโดยระดับชั้นของภพภูมิ)
ปุจฉา: กุศลเกิดขึ้นในภพภูมิไหนได้บ้าง?
วิสัชชนา: เกิดขึ้นได้ทั้งใน กามาวจรภูมิ (เช่น มนุษย์, เทวดา), รูปาวจรภูมิ (พรหมที่มีรูป), อรูปาวจรภูมิ (พรหมที่ไม่มีรูป) และ โลกุตตรภูมิ (กุศลที่ทำให้ข้ามพ้นโลกคือ มรรคจิต)
๕. โดยอรรถ (จำแนกโดยความหมายและหน้าที่)
ปุจฉา: กุศลมีความหมายว่าอย่างไร และให้ผลเช่นไร?
วิสัชชนา: มีความหมายว่า เป็นสภาวะที่ ฉลาด (โกสล), ไม่มีโทษ (อนวัชชะ), และมีผลเป็นความสุข (สุขวิบาก)
๖. โดยธรรม (จำแนกโดยตัวสภาวะ)
ปุจฉา: ตัวสภาวะของกุศลคืออะไร?
วิสัชชนา: คือ กุศลจิต และ เจตสิก (ธรรมที่ประกอบจิต) ที่ดีงามซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์เดียวกัน
๗. โดยนาม (จำแนกโดยชื่อเรียก)
ปุจฉา: เราเรียกสภาวะนี้ด้วยชื่ออื่นว่าอะไรได้อีก?
วิสัชชนา: อาจเรียกว่า บุญ, สุจริต, ธรรมฝ่ายขาว เป็นต้น
๘. โดยลิงค์ (จำแนกโดยลักษณะหรือเครื่องหมาย)
ปุจฉา: อะไรคือเครื่องหมายหรือลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นกุศล?
วิสัชชนา: ลักษณะที่ เกื้อกูล, ไม่เบียดเบียน, ทำให้จิตใจผ่องใส, เป็นไปเพื่อปัญญา คือเครื่องหมายของกุศล
สรุป:
นิกเขปกัณฑ์ในคัมภีร์อัฎฐสาลินีเป็นการสรุปและจำแนกสภาวธรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เข้าใจธรรมในมิติต่าง ๆ ได้ชัดเจน การนำไปใช้ช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถวิเคราะห์จิต กรรม และสภาวะธรรมของตนเอง เพื่อพัฒนาการปฏิบัติให้ก้าวหน้าสู่การหลุดพ้น