“องฺ.อ.”,
องฺคุตฺตรนิกาย อฏฺฐกถา
ผู้รจนา: พระพุทธโฆสาจารย์ (พุทธโฆสเถระ)
ยุคสมัย: ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๐ ณ เกาะลังกา (ศรีลังกา)
ความหมายของคัมภีร์ ชื่อ “มโนรถปูรณี” แปลตามศัพท์ว่า “คัมภีร์ที่ยังความปรารถนาแห่งใจให้เต็มเปี่ยม” สื่อความหมายว่า การศึกษาคัมภีร์นี้จะช่วยให้ผู้ศึกษาบรรลุถึงความเข้าใจในพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ได้อย่างลึกซึ้งสมดังที่ตั้งใจไว้ เหมือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ความหวังในการเข้าถึงธรรมะสำเร็จบริบูรณ์
เนื้อหาและบทบาทของอรรถกถา
บทบาทสำคัญที่สุดของมโนรถปูรณี คือการทำให้พระสูตรต่างๆ ในองฺคุตฺตรนิกาย ซึ่งมีลักษณะเด่นคือการจัดหมวดธรรมะตามจำนวนตัวเลข มีความชัดเจนและง่ายต่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยมีหน้าที่หลักดังนี้:
- อธิบายศัพท์และสำนวน (ปทภาชนีย์): การให้ความหมายของคำศัพท์ภาษาบาลีที่ยาก สำนวนโวหาร หรือคำที่เฉพาะทางที่ปรากฏในพระสูตร
- ให้ข้อมูลเบื้องหลัง (นิทาน): การเล่าเหตุการณ์ บริบท หรือเรื่องราวของบุคคลที่เป็นสาเหตุให้พระพุทธองค์ทรงแสดงพระสูตรนั้นๆ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจถึงที่มาและเจตนารมณ์ของคำสอน
- ขยายความหลักธรรม: การอธิบายหัวข้อธรรมต่างๆ อย่างละเอียด พร้อมทั้งยกอุปมาอุปไมยและเรื่องราวประกอบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ไม่ใช่เพียงการท่องจำหัวข้อธรรมเท่านั้น
- เชื่อมโยงคำสอน: การชี้ให้เห็นความสอดคล้องของหลักธรรมในพระสูตรหนึ่งกับพระสูตรอื่นๆ ในพระไตรปิฎก เพื่อให้เกิดความเข้าใจในภาพรวมของพระพุทธศาสนา
คุณค่าและความสำคัญ
มโนรถปูรณีถือเป็นคัมภีร์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งและเป็นกุญแจสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการศึกษาองฺคุตฺตรนิกายให้แตกฉาน เพราะช่วยไขข้อสงสัยในพุทธพจน์ที่อาจมีความหมายกำกวมหรือรวบรัดเกินไป และเป็นแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมที่แสดงถึงแนวทางการตีความพระไตรปิฎกตามแบบแผนของพระพุทธศาสนาเถรวาทที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ
☸️ มโนรถปูรณี คือผลงานชิ้นเอกของพระพุทธโฆสาจารย์ที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้พุทธศาสนิกชนในยุคหลังสามารถข้ามไปสู่ความเข้าใจอันลึกซึ้งในพระธรรมเทศนาหมวดตัวเลขของพระพุทธองค์ได้อย่างสมบูรณ์และชัดเจน การศึกษาองฺคุตฺตรนิกายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงควรดำเนินควบคู่ไปกับอรรถกถาคัมภีร์นี้เสมอ
