
ส่วนต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายนั้น ทางธรรมะเรียกว่า “รูปธรรม” หรือเรียกสั้นๆ ว่า รูป เป็นธรรมชาติที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิดใดๆ ทั้งสิ้น เปรียบได้ดั่งท่อนไม้ ส่วน จิต และ เจตสิก เป็น “นามธรรม” หรือเรียกสั้นๆ ว่า นาม เป็นธรรมชาติที่รับรู้สิ่งต่างๆ และสามารถคิดนึกเรื่องราวต่างๆ ได้
ดังนั้น ตัวเรา หรือสัตว์ทั้งหลายจึงมีส่วนประกอบอยู่ ๓ ส่วน ได้แก่ กาย จิต และเจตสิก ซึ่งในทางธรรม เรียกว่า รูป กับ นาม แต่เนื่องจาก พืช ทั้งหลายไม่ได้เกิดมาจากกรรม ไม่มีจิตและเจตสิกในการรับรู้คิดนึกเรื่องราวต่างๆ ดังนั้นคำว่า “ชีวิต” ในพระอภิธรรมจึงหมายถึงเฉพาะ มนุษย์และสัตว์ เท่านั้น
คำว่า “สัตว์” ตามพระอภิธรรม คำว่า “สัตว์” ในที่นี้มิได้หมายถึงเฉพาะสัตว์เดรัจฉานเท่านั้น แต่หมายถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิดใน ๓๑ ภพภูมิ ดังนั้น มนุษย์ จึงถือว่าเป็นสัตว์ประเภทหนึ่งด้วย
ชีวิตคืออะไร
สัตว์ทั้งหลายในจักรวาลนี้ล้วนประกอบด้วยธรรมชาติ ๓ อย่าง คือ รูป จิต และเจตสิก ที่สำคัญผิดคิดว่าเป็น “เรา” เป็น “ตัวตนของเรา” แท้ที่จริงแล้วมีแต่ รูปกับนาม เท่านั้นที่เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีส่วนไหนเลยที่เป็น “ตัวตนของเรา” แม้จะรวมกันเข้าแล้วก็ยังไม่ใช่ “เรา” อีกเช่นเคย แม้คนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยรู้จักพระพุทธศาสนามาก่อน หรือผู้ที่นับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม ทุกคนล้วนประกอบด้วย รูป จิต และเจตสิก ที่มีการเกิดดับอย่างรวดเร็วเหมือนกันทั้งสิ้น เพราะสัตว์ทั้งหลายไม่รู้ธรรมชาติที่เป็นจริงนี้ จึงทำให้ ยึด รูป-นาม ขันธ์ ๕ ว่าเป็นตัวตนของเรา โดยมี กิเลสตัณหา เป็นผู้บงการให้กระทำกรรมต่างๆ ทั้งที่เป็นบุญและเป็นบาป แล้ววิบากที่เป็นผลของกรรมนั้นก็จะส่งผลให้ต้องเวียนเกิดเวียนตายใน สังสารวัฏ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การศึกษาพระอภิธรรม
การศึกษาพระอภิธรรม ก็คือการศึกษาเรื่องของตัวเราและสัตว์ทั้งหลายนั่นเอง เพราะเนื้อหาของพระอภิธรรมจะกล่าวถึงธรรมชาติอันแท้จริงที่มีอยู่ในตัวเรา ได้แก่ รูป จิต และเจตสิก โดยละเอียด ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากในการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เมื่อเราเห็นแจ้งสภาวธรรมที่เป็นความจริงตามธรรมชาติแล้ว อวิชชา และ กิเลสทั้งหลายก็จะถูกทำลายลง เป็นเหตุให้พ้นจากการเวียนเกิดเวียนตายได้ในที่สุด
อธิบาย “ขันธ์ ๕” *คำว่า ขันธ์ แปลว่า กอง, พวก, หมวด, หมู่
🅞 รูปขันธ์ — อวัยวะน้อยใหญ่ หรือกลุ่มรูปที่มีอยู่ในร่างกายทั้งหมด
🅞 เวทนาขันธ์ — ความรู้สึก เป็นสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ หรือเฉยๆ
🅞 สัญญาขันธ์ — ธรรมชาติที่มีหน้าที่ในการจำ เป็นหน่วยความจำของจิต
🅞 สังขารขันธ์ — ธรรมชาติที่ปรุงแต่งจิตให้มีลักษณะต่างๆ เป็นกุศลหรืออกุศล
🅞 วิญญาณขันธ์ — ธรรมชาติที่รับรู้สิ่งต่างๆ ที่มาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
การเกิดของ จิต (วิญญาณขันธ์) จะมี เจตสิก (เช่น เวทนา สัญญา สังขาร) เกิดร่วมเสมอ จิตเปรียบเสมือนนาฬิกา, เจตสิกเปรียบเสมือน ชิ้นส่วนและเฟือง ที่ทำให้นาฬิกาทำงานได้ จิตและเจตสิกจะ แยกกันไม่ได้ ต้องเกิดร่วมกันเสมอ
สรุป: ขันธ์ ๕ (เบญจขันธ์) ก็คือ รูป จิต และเจตสิก หรือเรียกสั้นๆ ว่า รูปกับนาม นั่นเอง