พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕

ความหมายของชื่อคัมภีร์ “ขุทฺทกปาฐ” (ขุด-ทะ-กะ-ปา-ถะ) มาจากศัพท์บาลี ๒ คำ คือ “ขุทฺทก” แปลว่า เล็กน้อย, ย่อย และ “ปาฐ” แปลว่า บทเรียน, บทสวด, ข้อความที่ควรอ่าน ดังนั้น ขุททกปาฐ จึงหมายถึง “บทสวดหรือบทเรียนย่อยๆ” เป็นการรวบรวมบทสวดและพระสูตรขนาดสั้นที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการเริ่มต้นศึกษาและปฏิบัติในพระพุทธศาสนา

เนื้อหาและรูปแบบของคัมภีร์

ขุททกปาฐเป็นคัมภีร์ลำดับแรกสุดในหมวดขุททกนิกาย เปรียบเสมือน “หนังสือเรียนเล่มแรก” หรือ “คู่มือสำหรับสามเณรและพุทธศาสนิกชน” ประกอบด้วยบทสวดและพระสูตรสั้นๆ ที่สำคัญ ๙ บท คือ:

  • ๑. สรณคมนปาฐ: บทว่าด้วยการถึงสรณะ หรือการเปล่งวาจาขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง (พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ…)
  • ๒. ทสสิกขาบท: สิกขาบทหรือข้อปฏิบัติ ๑๐ ประการสำหรับสามเณร (ปาณาติปาตา เวรมณี…)
  • ๓. ทวัตติงสาการ: บทว่าด้วยอาการ ๓๒ คือการพิจารณาส่วนประกอบของร่างกาย ๓๒ อย่าง (เช่น เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ…) เพื่อให้เห็นความไม่งามและคลายความยึดมั่น
  • ๔. กุมารปัญหา: คำถามสำหรับเด็กหรือสามเณร เป็นการถามตอบปัญหาธรรมะสั้นๆ เกี่ยวกับธรรมะหมวด ๑ ถึง ๑๐
  • ๕. มงคลสูตร: พระสูตรว่าด้วยมงคลอันสูงสุด ๓๘ ประการ ที่นำความสุขความเจริญมาให้ เริ่มตั้งแต่การไม่คบคนพาล ไปจนถึงการมีจิตเกษม (เป็นพระสูตรที่คนไทยนิยมสวดอย่างแพร่หลาย)
  • ๖. รตนสูตร: พระสูตรที่พรรณนาคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถือเป็นพระปริตรที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับสวดเพื่อขจัดภยันตราย
  • ๗. ติโรกุฑฑสูตร: พระสูตรที่ว่าด้วยการอุทิศส่วนบุญให้แก่เปรตหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
  • ๘. นิธิกัณฑสูตร: พระสูตรที่ว่าด้วยการฝังขุมทรัพย์ โดยเปรียบเทียบว่าการสร้างบุญกุศลคือการฝังขุมทรัพย์ที่แท้จริงซึ่งติดตามตนไปได้ทุกที่
  • ๙. กรณียเมตตสูตร: พระสูตรว่าด้วยกิจที่ควรทำของผู้ฉลาดในการเจริญเมตตา เป็นบทสวดที่เป็นหัวใจของการแผ่เมตตา

คุณค่าและความสำคัญ

ขุททกปาฐมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะเป็น “ประตูสู่พระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์ที่รวบรวมเอาบทสวดและคำสอนที่จำเป็นที่สุดสำหรับการดำเนินชีวิตของชาวพุทธไว้ในที่เดียว แม้จะมีขนาดเล็ก แต่เนื้อหาภายในเป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนในสายเถรวาทคุ้นเคยและใช้สวดสาธยายในชีวิตประจำวันและในพิธีกรรมต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน

☸️ขุทฺทกนิกาย ขุททกปาฐ คือบทสรุปคำสอนพื้นฐานที่พุทธศาสนิกชนทุกคนพึงรู้และปฏิบัติ ตั้งแต่การประกาศตนเป็นชาวพุทธ (ถึงสรณะ) การรักษาศีล การเจริญภาวนา (พิจารณาร่างกาย, แผ่เมตตา) ไปจนถึงการปฏิบัติตนให้เกิดมงคลแก่ชีวิต (มงคลสูตร) จึงนับเป็นคู่มือเริ่มต้นที่สมบูรณ์ที่สุดบนเส้นทางแห่งการศึกษาธรรมะ

ความหมายของชื่อคัมภีร์ “ธมฺมปท” (ทำ-มะ-ปะ-ทะ) หรือที่นิยมเรียกว่า “ธรรมบท” มาจากศัพท์บาลี ๒ คำ คือ “ธมฺม” แปลว่า ธรรมะ, สัจธรรม, คำสอน และ “ปท” แปลว่า ทาง, ร่องรอย, บท, บาทคาถา ดังนั้น ธัมมปท จึงมีความหมายรวมว่า “บาทคาถาแห่งธรรม” หรือ “ทางแห่งธรรม” เป็นการรวบรวมพระพุทธพจน์ที่เป็นดั่งแก่นแท้ของพระธรรมคำสอนในรูปแบบบท ร้อยกรอง ที่สั้น กระชับ และไพเราะ

เนื้อหาและรูปแบบของคัมภีร์

ธัมมปทเป็นคัมภีร์ลำดับที่ ๒ ในหมวดขุททกนิกาย และเป็นคัมภีร์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมแพร่หลายมากที่สุดในโลกเล่มหนึ่งของพระพุทธศาสนา ประกอบด้วยพระคาถาที่พระพุทธองค์ทรงแสดงในวาระต่างๆ รวมทั้งสิ้น ๔๒๓ คาถา โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๒๖ วรรค (หมวด) ตามเนื้อหาของคาถานั้นๆ ตัวอย่างวรรคที่สำคัญ เช่น:

  • ยมกวรรค (หมวดคู่): ว่าด้วยธรรมะที่เป็นคู่ตรงข้ามกัน ขึ้นต้นด้วยคาถาที่โด่งดังที่สุดบทหนึ่งว่า “มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา…” (ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า)
  • อัปปมาทวรรค (หมวดความไม่ประมาท): ว่าด้วยคุณค่าของสติและความไม่ประมาท
  • จิตตวรรค (หมวดจิต): ว่าด้วยธรรมชาติของจิตที่ฝึกได้ยาก แต่เมื่อฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้
  • ปุปผวรรค (หมวดดอกไม้): ว่าด้วยการเปรียบเทียบชีวิตกับการเลือกสรรดอกไม้
  • พาลวรรค (หมวดคนพาล) และ บัณฑิตวรรค (หมวดบัณฑิต): ว่าด้วยลักษณะของคนพาลและบัณฑิต
  • ตัณหาวรรค (หมวดตัณหา): ว่าด้วยโทษของตัณหาและหนทางดับสิ้นตัณหา

ในคัมภีร์อรรถกถา (ธัมมปทัฏฐกถา) จะมีเรื่องราวประกอบว่า พระพุทธองค์ทรงเปล่งคาถาแต่ละบทขึ้นในสถานการณ์ใด เพื่อสอนบุคคลใด ซึ่งช่วยให้เข้าใจความหมายของคาถาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

คุณค่าและความสำคัญ

ธัมมปทได้รับการยกย่องว่าเป็น “หัวใจของพระพุทธศาสนาเป็นคัมภีร์ที่เหมาะสำหรับคนทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นศึกษาไปจนถึงผู้ที่ปฏิบัติมานานแล้ว เนื่องจากใช้ถ้อยคำที่เรียบง่ายแต่มีความหมายลึกซึ้ง ครอบคลุมหลักธรรมสำคัญทั้งเรื่องกรรม, การฝึกฝนตน, การควบคุมจิตใจ, และเป้าหมายสูงสุดคือนิพพาน ด้วยความเป็นสากลและเข้าถึงง่ายนี้เอง ทำให้คัมภีร์ธรรมบทได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลกมากกว่าคัมภีร์เล่มอื่นใด

☸️ ขุทฺทกนิกาย ธัมมปท คือคลังแห่งปัญญาอันบริสุทธิ์ที่รวบรวมพุทธวจนะอันเป็นอมตะ เป็นคู่มือชีวิตที่ชี้แนะแนวทางแห่งความดีงาม ความสงบ และความสว่างแก่ชาวโลก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย คาถาในธรรมบทก็ยังคงความร่วมสมัยและสามารถเป็นประทีปส่องทางให้แก่ผู้ที่แสวงหาสัจธรรมได้เสมอ สมกับที่เป็นหนึ่งในคัมภีร์ที่เป็นที่รักและเคารพสูงสุดของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก

ความหมายของชื่อคัมภีร์ “อุทาน” (อุ-ทาน) เป็นศัพท์บาลี แปลว่า “คำอุทาน” หรือ “เปล่งวาจาด้วยความซาบซึ้งใจ” โดยในที่นี้หมายถึงพระคาถาที่พระพุทธองค์ทรงเปล่งออกมาเมื่อทรงเกิดความรู้สึกสังเวช, ความพอพระทัย หรือความซาบซึ้งอย่างยิ่งยวดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะพระพักตร์ คัมภีร์นี้จึงสะท้อนถึงเนื้อหาที่เป็นการรวบรวมพระพุทธพจน์อันเกิดจากแรงบันดาลใจในสถานการณ์ต่างๆ

เนื้อหาและรูปแบบของคัมภีร์

อุทานเป็นคัมภีร์ลำดับที่ ๓ ในหมวดขุททกนิกาย ประกอบด้วยพระสูตร ๘๐ สูตร แบ่งเป็น ๘ วรรค (หมวด) วรรคละ ๑๐ สูตร โดยมีโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างยิ่ง คือ:

  • ๑. ส่วนที่เป็น ร้อยแก้ว: จะขึ้นต้นด้วยการเล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงประสบหรือทอดพระเนตรเห็น เป็นการปูพื้นและสร้างบริบทให้กับคำสอน
  • ๒. ส่วนที่เป็น ร้อยกรอง (คาถา): เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดที่สำคัญที่สุด พระองค์จะทรงเปล่ง “พระคาถาอุทาน” ออกมา ซึ่งเป็นบทสรุปเชิงสัจธรรมที่สะท้อนจากเหตุการณ์นั้นๆ พระคาถานี้ถือเป็นหัวใจของแต่ละพระสูตร

คัมภีร์อุทานได้รวบรวมเหตุการณ์สำคัญและเรื่องราวที่เป็นที่รู้จักกันดีไว้มากมาย เช่น:

  • โพธิวรรค: วรรคแรกที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในสัปดาห์แรกๆ หลังการตรัสรู้ และการพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
  • มุจลินทวรรค: กล่าวถึงพญานาคมุจลินท์ที่มาวงขนดป้องกันพระวรกายของพระพุทธองค์จากพายุฝน
  • พาหิยสูตร: เรื่องราวของพาหิยะ ทารุจีริยะ ผู้ได้บรรลุอรหัตผลเร็วที่สุดเพียงเพราะได้ฟังธรรมสั้นๆ
  • เรื่องคนตาบอดคลำช้าง: อุปมาเรื่องคนตาบอดหลายคนคลำส่วนต่างๆ ของช้างแล้วเข้าใจว่าช้างเป็นเช่นนั้น ซึ่งเป็นอุปมาที่โด่งดังเรื่องทิฏฐิและความเห็นที่คับแคบ

คุณค่าและความสำคัญ

คัมภีร์อุทานมีความพิเศษในการทำให้คำสอนของพระพุทธศาสนามีชีวิตชีวาและเชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง แทนที่จะเป็นเพียงหลักธรรมเชิงทฤษฎี ผู้อ่านจะได้เห็นว่าพระพุทธองค์ทรงหยิบยกเอาเหตุการณ์ธรรมดามาเป็นสื่อในการแสดงสัจธรรมได้อย่างไร คาถาอุทานแต่ละบทมีความสั้น กระชับ แต่ลึกซึ้งและทรงพลัง ทำให้ง่ายต่อการจดจำและนำไปพิจารณาต่อ

☸️ ขุทฺทกนิกาย อุทาน คือถ้อยคำของพระศาสดา เป็นการบันทึกช่วงเวลาที่สัจธรรมปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัดท่ามกลางเหตุการณ์ต่างๆ จนพระองค์ต้องทรงเปล่งวาจาเพื่อประกาศความจริงนั้นไว้ การศึกษาคัมภีร์อุทานจึงไม่เพียงแต่ให้ความรู้ทางธรรม แต่ยังให้ความรู้สึกซาบซึ้งเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์และได้ฟังพระคาถาอุทานอันเปี่ยมด้วยพระปัญญาธิคุณขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้

ความหมายของชื่อคัมภีร์ “อิติวุตฺตก” (อิ-ติ-วุด-ตะ-กะ) แปลตามศัพท์ว่า “ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดังนี้” มาจากประโยคขึ้นต้นของทุกพระสูตรในคัมภีร์นี้ที่ว่า วุตฺตํ เหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตา’ติ เม สุตํ ซึ่งแปลว่า ข้อความนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ได้ตรัสไว้แล้ว ดังที่ข้าพเจ้าได้สดับมา คัมภีร์จึงเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะเด่นของเนื้อหาว่าเป็นพระพุทธพจน์ที่ได้รับการยืนยันและถ่ายทอดมาโดยตรง

เนื้อหาและรูปแบบของคัมภีร์

อิติวุตตกะเป็นคัมภีร์ลำดับที่ ๔ ในหมวดขุททกนิกาย ประกอบด้วยพระสูตรสั้นๆ จำนวน ๑๑๒ สูตร แบ่งออกเป็น ๔ นิบาต (หมวด) ตามจำนวนหัวข้อธรรม คือ เอกนิบาต (หมวด ๑), ทุกนิบาต (หมวด ๒), ติกนิบาต (หมวด ๓), และจตุกกนิบาต (หมวด ๔) เอกลักษณ์สำคัญที่สุดของคัมภีร์นี้คือ ทุกพระสูตรจะมีโครงสร้าง ๒ ส่วนเสมอ คือ:

  • ๑. ส่วนร้อยแก้ว (วาทะ): เป็นการบรรยายเนื้อหาหลักของคำสอน
  • ๒. ส่วนร้อยกรอง (คาถา): เป็นบทประพันธ์ที่สรุปย้ำ หรือขยายความเนื้อหาในส่วนร้อยแก้วอีกครั้งหนึ่ง

ตามประวัติในอรรถกถา คัมภีร์นี้มีความพิเศษคือ เป็นพระธรรมที่ นางขุชชุตตรา อุบาสิกาผู้รับใช้ในวังของพระเจ้าอุเทนแห่งกรุงโกสัมพี ได้ไปฟังจากพระพุทธองค์แล้วนำมาแสดงแก่พระนางสามาวดีและบริวารอีก ๕๐๐ นางในวังให้ได้ฟังตามทุกครั้งไป นางขุชชุตตราได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในฝ่ายอุบาสิกาผู้เป็นพหูสูต

คุณค่าและความสำคัญ

อิติวุตตกะเป็นแหล่งรวบรวมพระธรรมเทศนาที่สั้น กระชับ และตรงไปตรงมา ครอบคลุมหัวใจของคำสอนในหลายๆ ด้าน รูปแบบที่มีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองช่วยให้เนื้อหาทั้งเข้าใจง่ายและจดจำได้แม่นยำ นอกจากนี้ ประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับนางขุชชุตตรายังแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของสตรีและอุบาสิกาในการศึกษาและสืบทอดพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

☸️ ขุทฺทกนิกาย อิติวุตฺตก คือคลังแห่งพุทธพจน์อันเป็นแก่นแท้ ที่ได้รับการถ่ายทอดผ่านความทรงจำอันเป็นเลิศของอุบาสิกาผู้มีปัญญา เป็นคัมภีร์ที่ผสมผสานความงามของภาษาทั้งในรูปแบบร้อยแก้วและร้อยกรองได้อย่างลงตัว เพื่อตอกย้ำสัจธรรมคำสอนให้ประทับอยู่ในใจของผู้ศึกษา การอ่านอิติวุตตกะจึงเปรียบเสมือนการได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์ที่ผ่านการบอกเล่าของบุคคลที่พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งให้เป็นเอตทัคคะในฝ่ายอุบาสิกาผู้เป็นพหูสูต

ความหมายของชื่อคัมภีร์ “สุตฺตนิปาต” (สุด-ตะ-นิ-บาด) มาจากศัพท์บาลี ๒ คำ คือ “สุตฺต” แปลว่า พระสูตร, คำสอน และ “นิปาต” แปลว่า หมวด, ชุมนุม, การรวมเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้น สุตตนิปาต จึงหมายถึง “ชุมนุมแห่งพระสูตร” เป็นการรวบรวมพระสูตรเบ็ดเตล็ดต่างๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นบทร้อยกรอง (คาถา) ที่มีความเก่าแก่และไพเราะอย่างยิ่ง

เนื้อหาและรูปแบบของคัมภีร์

สุตตนิปาตเป็นคัมภีร์ลำดับที่ ๕ ในหมวดขุททกนิกาย และได้รับการยอมรับจากนักวิชาการว่าเป็นหนึ่งในคัมภีร์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในพระไตรปิฎก แสดงให้เห็นถึงรูปแบบคำสอนในยุคแรกเริ่มของพระพุทธศาสนา เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นบท ร้อยกรอง ที่เน้นย้ำถึงอุดมคติแห่งการไม่ยึดติด, การใช้ชีวิตอย่างสันโดษ และการปฏิบัติเพื่อความสิ้นกิเลส คัมภีร์นี้แบ่งออกเป็น ๕ วรรค (หมวด) ที่มีชื่อเสียง คือ:

  • ๑. อุรควรรค (หมวดว่าด้วยงู) มี ๑๒ สูตร ที่โดดเด่นคือ ขัคควิสาณสูตร (ว่าด้วยการทำตนดังนอแรด) และมุนีสูตร (ว่าด้วยข้อปฏิบัติของมุนี)
  • ๒. จูฬวรรค (หมวดเล็ก) มี ๑๔ สูตร ซึ่งรวบรวมพระสูตรที่คนไทยคุ้นเคยที่สุดไว้หลายบท เช่น รตนสูตร, มงคลสูตร, และกรณียเมตตสูตร (ซึ่งปรากฏในขุททกปาฐด้วย)
  • ๓. มหาวรรค (หมวดใหญ่) มี ๑๒ สูตร ประกอบด้วยพระสูตรสำคัญที่เล่าถึงพุทธประวัติ เช่น ปัพพัชชาสูตร (ว่าด้วยการออกบวช) และปธานสูตร (ว่าด้วยการทำความเพียร)
  • ๔. อัฏฐกวรรค (หมวดว่าด้วยธรรม ๘ อย่าง) เป็นวรรคที่เก่าแก่และลึกซึ้งมาก มี ๑๖ สูตร เน้นการไม่ยึดมั่นในทิฏฐิและปรัชญาทั้งปวง วรรคนี้เป็นเนื้อหาที่พระสารีบุตรนำไปขยายความในคัมภีร์ “มหานิทเทส
  • ๕. ปารายนวรรค (หมวดว่าด้วยทางไปสู่ฝั่งโน้น) เป็นวรรคสุดท้าย มี ๑๖ สูตร ว่าด้วยการที่มาณพ ๑๖ คนทูลถามปัญหาอันลึกซึ้งต่อพระพุทธเจ้า วรรคนี้เป็นเนื้อหาที่พระสารีบุตรนำไปขยายความในคัมภีร์ “จูฬนิทเทส

คุณค่าและความสำคัญ

สุตตนิปาตมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะเป็น “หน้าต่างสู่พุทธศาสนายุคแรก” ทำให้เราได้สัมผัสกับลีลาภาษาและแก่นคำสอนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังและลึกซึ้ง อีกทั้งยังเป็น “คัมภีร์แม่” ของคัมภีร์อื่นอีกหลายเล่ม เช่น เป็นที่มาของพระสูตรสำคัญในขุททกปาฐ และเป็นต้นธารของเนื้อหาในมหานิทเทสและจูฬนิทเทส ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของคัมภีร์นี้ที่ได้รับการยอมรับและนำไปอธิบายขยายความต่อโดยพระอัครสาวก

☸️ ขุทฺทกนิกาย สุตฺตนิปาต คือบทแห่ง]ธรรมที่เก่าแก่และงดงามที่สุดบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา เป็นเสียงสะท้อนจากยุคพุทธกาลที่เชิญชวนให้ผู้ฟังละวางความยึดติด มุ่งสู่ความสันโดษ และค้นพบอิสรภาพภายใน การศึกษาคัมภีร์นี้เปรียบเสมือนการได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับจิตวิญญาณดั้งเดิมของเส้นทางแห่งการดับทุกข์ อันเป็นหัวใจของคำสอนที่พระพุทธองค์ทรงมอบให้แก่โลก

ศึกษาอรรถกถา ธมฺมปทฏฺฐกถา

Scroll to Top