กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๑ สารูป ๒๖

เสขิยวัตร ๗๕ สิกขาบท กำหนดนับ ๑๐ สิกขาบทเป็นวรรคหนึ่ง ๆ ได้ ๗ วรรค อีก ๕ สิกขาบทนั้นจัดเป็น ๑ รวมเป็น ๘ วรรค 

สารูป ๒๖ การกระทำให้สมควรแก่สมณะ
โภชนปฎิสังยุตต์ ๓๐ วิธีที่จะขบฉัน
ธัมมเทสนาปฎิสังยุตต์ ๑๖ การแสดงธรรม
ปกิณกะ ๓ คือที่เรี่ยรายอยู่นำมายกขึ้นสู่อุเทศ

สารูปมี ๒๖ สิกขาบท

สิกขาบทที่ ๑-๒๖

  • สิกขาบทที่ ๑ ว่าเราจักนุ่งผ้าให้เป็น ปริมณฑล คือนุ่งสงบจีบให้ชายเสมอกัน เหน็บพกให้แนบเนียน เหนือสะดือขึ้นไปสัก ๔ นิ้ว ปิดเข่าลงมาประมาณ ๘ นิ้ว เมื่อนั่งลงก็จะคงปิดเข่า ๔ นิ้ว อย่างนี้ชื่อว่านุ่งผ้าเป็นปริมณฑล
  • สิกขาบทที่ ๒ ว่าเราจักห่มผ้าจีวรให้เป็นปริมณฑล ถ้านอกเขตวัดให้ห่มคลุมผสมมุมม้วนขวาเข้าให้เสมอกัน (ตามบาลีใน มหาอัตฤกถาคัมภีร์ จตุตถสมันตปาสาทิกาคัมภีร์ มังคลัตถทีปนีคัมภีร์ ว่า สมปุปมาณํ จีวรํ ปารปนฺเตน สํหริตฺวา พาหาย อุปริ จปิตา อุโภ อนุตา พหิมุขา ติฏฐนุติ แปลความว่า ชายทั้ง ๒ อันพระภิกษุเมื่อห่มซึ่งจีวรจัดให้เสมอกัน ม้วนเข้าแล้ววางไว้เบื้องบนแห่งแขน มีหน้าในภายนอกให้ตั้งอยู่ริมอนุวาต ปกคอพันข้อมือแล้วหนีบไว้ใต้รักแร้ วางมอบบนแขนซ้าย ปกแข้งลงประมาณ ๔ นิ้ว ถ้าในเขตวัดให้ลดเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ถ้าห่มครองให้ชักจีวรแถบซ้ายพับขึ้นมาพาดบ่าเป็นสองชั้น พาดสังฆาฏิหน้าหลังเท่ากัน ยื่นหลังถึงขอบสบง เรียกว่า หางค่างหางโค ยื่นข้างหน้ามากเรียกว่า ชายแครงชายไหว ไม่ควร คาดรัดประคดเอวใต้นมสองนิ้ว อย่าให้ต่ำเลย ๔ นิ้ว ต้องนุ่งห่มให้เป็นปริมณฑลก่อน จึงแสดงอาบัติตก) หมายเหตุ : ข้อความทั้งหมดในวงเล็บ เป็นข้อความที่เรียบเรียงเพิ่มเติมไว้ในฉบับ ร.ศ. ๑๒๘
  • สิกขาบทที่ ๓ ว่าเราจักนุ่งห่มให้เป็นปริมณฑล ปกปิดกายด้วยดีตามวิธีที่กล่าวแล้ว เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๔ ว่าเราจักนุ่งห่มปกปิดกายด้วยดี นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๕ ว่าเราจักสำรวมด้วยดี ไม่คะนองมือคะนองเท้า เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๖ ว่าเราจักสำรวมด้วยดี ไม่คะนองมือคะนองเท้า นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๗ ว่าเราจัดทอดนัยน์ตาลงดูข้างหน้าเพียงสัก ๔ ศอก ไม่เหลียวซ้ายเหลียวขวา ไม่กลับหลังมาแลดู เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๘ ว่าเราจักทอดตาแลดูเพียง ๔ ศอกไม่เหม่อเมินสายตาดู นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๙ ว่าเราจักไม่เลิกจีวรขึ้นพาดบ่า ให้เห็นสายประคด เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๐ ว่าเราจักไม่เลิกจีวรขึ้นพาดบ่า นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๑ ว่าเราจักไม่หัวเราะดังคิกคัก เฮฮา เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๒ ว่าเราจักไม่หัวเราะดังคิกคัก เฮฮา นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๓ ว่าเราจักไม่พูดเสียงดังให้เกินขนาดเสียง เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๔ ว่าเราจักไม่พูดเสียงดังให้เกินขนาดเสียง นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๕ ว่าเราจักไม่โยกโคลงกาย เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๖ ว่าเราจักไม่โยกโคลงกาย นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๗ ว่าเราจักไม่กรีดกรายแขน เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๘ ว่าเราจักไม่กรีดกรายแขน นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๑๙ ว่าเราจักไม่โคลงศีรษะ กลอกหน้า เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๐ ว่าเราจักไม่โคลงศีรษะ กลอกหน้า นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๑ ว่าเราจักไม่เท้าสะเอว เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๒ ว่าเราจักไม่เท้าแขน นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๓ ว่าเราจักไม่คลุมศีรษะ เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๔ ว่าเราจักไม่คลุมศีรษะ นั่งในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๕ ว่าเราจักไม่เขย่งเท้า เดินไปในถิ่นบ้าน
  • สิกขาบทที่ ๒๖ ว่าเราจักไม่รัดเข่าด้วยมือหรือผ้า นั่งในถิ่นบ้าน

ให้ภิกษุพึงสำเหนียกนึกหมายไว้ตามกิจ เป็นสารูปแก่สมณะทั้ง ๒๖ อย่างนี้ ถ้าผิดจากนี้ต้องอาบัติทุกกฏ

Scroll to Top