อธิกรณสมถะ ๗ ประการ
คือ ธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแต่งตั้งบัญญัติไว้ เพื่อจะให้พระสงฆ์ระงับอธิกรณ์ ข้อผิดของภิกษุบริษัทที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ๆ มีอุบายวิธี ๗ ประการ อธิกรณ์ที่พระสงฆ์จะต้องระงับด้วยอธิกรณสมถะ ๗ นั้นมี ๔ คือ
วิวาทาธิกรณ์ ๑
อนุวาทาธิกรณ์ ๑
อาปัตตาธิกรณ์ ๑
กิจจาธิกรณ์ ๑
เป็น ๔ ประการฉะนี้ อันการที่ภิกษุมีความเห็นวิปลาส เกิดความวิวาท กล่าวต่าง ๆ กัน ให้วิปริตผิดเพี้ยนพระธรรมวินัย นี้ชื่อว่า วิวาทาธิกรณ์ การที่ภิกษุติดตาม ว่ากล่าว ทักท้วง ยกโทษกันด้วย ศีลวิบัติ อาจารวิบัติ ทิฏฐิวิบัติ อาชีววิบัติ แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง นี้ชื่อว่า อนุวาทาธิกรณ์ การที่ภิกษุต้องอาบัติทั้ง ๗ กอง คือ ปาราชิก ๑ สังฆาทิเสส ๑ ถุลลัจจัย ๑ ปาจิตตีย์ ๑ ปาฏิเทสนียะ ๑ ทุกกฏ ๑ ทุพภาสิต ๑ แต่กองใดกองหนึ่ง นี้ชื่อว่า อาปัตตาธิกรณ์ การที่ภิกษุทำกิจที่พระสงฆ์จะพึงกระทำทั้ง ๔ คือ อปโลกนกรรม ดังอปโลกน์เข้าสงฆ์ ๑ ญัตติกรรมอย่างสวดอุโบสถแลสวดปวารณา ๑ ญัตติทุติยกรรมอย่างสวดผูกสวดถอนพัทธสีมาแลสวดกฐิน ๑ ญัตติจตุตถกรรม อย่างสวดอุปสมบทและสวดปริวาส มานัต อัพภาน ๑ กรรมทั้ง ๔ นี้กำเริบเพราะไม่เป็นกรรม หรือไม่เป็นวรรค เป็นญัตติวิบัติ เป็นอนุสาวนาวิบัติ แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง นี้ชื่อว่า กิจจาธิกรณ์
อธิกรณ์ทั้ง ๔ นี้ พระสงฆ์พึงระงับลงไว้ด้วยอธิกรณสมถะ มีอุบายวิธีเป็น ๗ ประการ คือ
อุบายวิธีที่ ๑
ให้พระสงฆ์จึงให้ สัมมุขาวินัย นำอธิกรณ์เสียเฉพาะหน้าพระสงฆ์ เฉพาะหน้าพระวินัยธร เฉพาะหน้าโจทก์จำเลยยอมรับผิดชอบพร้อมหน้ากัน
อุบายวิธีที่ ๒
ให้พระสงฆ์พึงให้สติวินัย นำอธิกรณ์เสียด้วย อันสมมติให้เป็นผู้มีสติแท้ ดังสมมติให้แก่พระอรหันตเจ้า
อุบายวิธีที่ ๓
ให้พระสงฆ์พึงให้อมูฬหวินัยนำอธิกรณ์เสียได้ ให้เป็นแต่เพียงว่าผู้หลงเคลิ้มสติไปเฉพาะเป็นบ้า จะโจทก์นำอธิกรณ์ให้ระงับด้วยก็มิขึ้น ปรับอาบัติก็ไม่ได้
อุบายวิธีที่ ๔
ให้พระสงฆ์พึงให้ปฏิญญาตกรณะปฏิญญาณรับโทษสมคำโจทก์จำเลย
อุบายวิธีที่ ๕
ให้พระสงฆ์พึงให้เยยยสิกา กิริยาที่ให้อธิกรณ์ระงับด้วยพวกธรรมวาที่ชุกชุมมากว่า สมมติให้สัญญาแก่กันตามสำคัญด้วยฉลาก
อุบายวิธีที่ ๖
ให้พระสงฆ์พึงให้ตัสสปาปิยสิกา กิริยาที่ให้อธิกรณ์ระงับด้วยสมมติยกโทษแก่ภิกษุมีบาปหนาหนักต้องอาบัติเนือง ๆ กำจัดเสียจากหมู่สงฆ์ ทรมานให้ละพยศลง เห็นว่าเธอนั้นยังจักเยียวยาได้ พึงสวดระงับอธิกรณ์ให้
อุบายวิธีที่ ๗
ให้พระสงฆ์พึงให้ติณวัตถารกวินัย นำอธิกรณ์ให้สงบลงไว้ ดังลาดหญ้าทับกองคูถไว้ เพราะอธิกรณ์นั้นหยาบช้าเข้มข้นจวนจะถึงสังฆเภท พระวินัยธรตัดสินไม่ตกลง พระสงฆ์จึงพร้อมกันสวดสัญญาให้อธิกรณ์นั้นสาบสูญเสีย
ธรรม ๗ ประการนี้ ชื่อว่า อธิกรณสมถะ เป็นวิธีที่จะระงับข้อผิดกิจพระวินัยบัญญัติของภิกษุบริษัท พระธรรมวินัย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตไว้ ได้ยกขึ้นยังพระปาฏิโมกขุเทศ เป็นประเภทสิกขาบทบัญญัติรวมเข้าไว้เป็น ๒๒๗ สิกขาบท สำหรับพระสงฆ์ทำอุโบสถทุกระยะกึ่งเดือน สืบศาสนายุกาลมาถึงกาลปัจจุบันนี้ ขอท่านทั้งหลายแต่บรรดาที่อุปสมบทในพระพุทธศาสนาจงอุตสาหะท่องบ่นพระบาลีปาฏิโมกข์ให้จำขึ้นวาจา ใจ กำหนดความตามข้อพระพุทธบัญญัติที่ได้คัดขึ้นไว้โดยย่อนี้ให้แม่นยำ แล้วพึงศึกษาเล่าเรียนไว้ไถ่ถามหาความพิสดารต่อไป
จบพระปาฏิโมกขสังวรศีล ๒๒๗ สิกขาบท

- พระวินัยปิฎก เล่ม ๑ เวรัญชกัณฑ์
- กองที่ ๑ อาบัติปาราชิก ๔
- ปาฏิโมกขศีล
- สมณวิสัย
- กองที่ ๒ อาบัติสังฆาทิเสส ๑๓
- กองที่ ๓ อนิยต ๒
- กองที่ ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๑ จีวรวรรค
- กองที่ ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๒ โกสิยวรรค
- กองที่ ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๓ ปัตตวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๑ มุสาวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๒ ภูตคามวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๓ ภิกขุโนวาทวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๔ โภชนวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๕ อเจลกวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๖ สุราปานวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๗ สัปปาณวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๘ สหธัมมิกวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๙ ราชวรรค
- กองที่ ๖ ปาฎิเทสนียะ ๔
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๑ สารูป ๒๖
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๒ โภชนปฏิสังยุตต์ ๓๐
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๓ ธัมมเทสนาปฏิสังยุตต์ ๑๖
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๔ ปกิณกะ ๓

