๑. อลังกัมมนียสิกขาบท
ความว่า ภิกษุรูปเดียวนั่งอยู่ด้วย มาตุคาม คนเดียวในที่ลับตา มีฝากั้นม่านกั้นเป็นที่ควรจะเสพเมถุนได้ ถ้ามีอุบาสกอุบาสิกามีถ้อยคำควรเชื่อได้ ได้เห็นอาการของภิกษุแลมาตุคามนั้น แลพึงโจทก์ด้วยอาบัติปาราชิก หรือสังฆาทิเสส หรือปาจิตตีย์แต่อย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ตนเห็น ภิกษุก็รับสมอ้างตามคำโจทก์ จึงให้พระวินัยธร ปรับโทษ ตามปฏิญาณของภิกษุนั้นเป็นประมาณ
๒. นาลังกัมมนียสิกขาบท
ความว่า ภิกษุนั่งกับมาตุคามอย่างนั้น ก็แต่ที่ ๆ นั่งนั้นไม่มีที่บังที่มุง ไม่ควรจะเสพเมถุนได้ ควรแต่จะเจรจาคำหยาบ เปรียบปรายเกี้ยวพานกันได้เท่านั้น ถ้ามีอุบาสกอุบาสิกามีถ้อยคำควรจะเชื่อได้ ได้เห็น ได้ยิน แล้วมาโจทก์ด้วยอาบัติสังฆาทิเสส หรือปาจิตตีย์ ภิกษุก็รับสมตามคำโจทก์ จึงให้พระวินัยธรปรับโทษตามคำปฏิญาณของพระภิกษุนั้นเป็นประมาณ
สิกขาบททั้งสองนี้ มีอาบัติธรรมไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้เป็นแบบแผนที่ พระวินัยธร จะตัดสินโทษของภิกษุผู้อาบัติอธิกรณ์นั้น ๆ
จบอนิยต ๒ สิกขาบท เท่านี้

- พระวินัยปิฎก เล่ม ๑ เวรัญชกัณฑ์
- กองที่ ๑ อาบัติปาราชิก ๔
- ปาฏิโมกขศีล
- สมณวิสัย
- กองที่ ๒ อาบัติสังฆาทิเสส ๑๓
- กองที่ ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๑ จีวรวรรค
- กองที่ ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๒ โกสิยวรรค
- กองที่ ๔ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ วรรค ๓ ปัตตวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๑ มุสาวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๒ ภูตคามวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๓ ภิกขุโนวาทวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๔ โภชนวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๕ อเจลกวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๖ สุราปานวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๗ สัปปาณวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๘ สหธัมมิกวรรค
- กองที่ ๕ ปาจิตตีย์ วรรค ๙ ราชวรรค
- กองที่ ๖ ปาฎิเทสนียะ ๔
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๑ สารูป ๒๖
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๒ โภชนปฏิสังยุตต์ ๓๐
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๓ ธัมมเทสนาปฏิสังยุตต์ ๑๖
- กองที่ ๗ เสขิยวัตร หมวด ๔ ปกิณกะ ๓
- อธิกรณสมถะ ๗

