ตอนที่ ๑ เหตุแสดงจริยาปิฏก
เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว มีผู้สงสัยว่า
"เพราะเหตุใดพระองค์จึงตรัสรู้ได้?"
พระองค์จึงทรงแสดง เรื่องราวการบำเพ็ญบารมีในชาติต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจว่า
การตรัสรู้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากความเพียรและความดีที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
ตอนที่ ๒ อกิตติดาบส จริยาที่ ๑
พระโพธิสัตว์เกิดเป็น อกิตติดาบส ผู้บำเพ็ญพรตอยู่ในป่าลึก แม้จะได้ผลไม้และข้าวของเล็กน้อยจากชาวบ้าน ท่านก็สละทุกอย่างให้ผู้มาขอโดยไม่ลังเล
แม้พระอินทร์จะแปลงกายมาทดลองขอของหลายครั้ง ท่านก็มิได้หวงแหนหรือแสดงอาการเหนื่อยหน่ายใจของท่านเปี่ยมด้วยเมตตา และยินดีในทานไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“แม้มีของเพียงน้อยนิด แต่ข้าก็ยินดีสละเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น”
ตอนที่ ๓ สังขพราหมณ์ จริยาที่ ๒
พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็น สังขพราหมณ์ ผู้มีศีล มีธรรม และดำรงอยู่ในเพศบรรพชิต ท่านมีทรัพย์จำนวนมาก
เมื่อมีคนยากไร้มาขอสิ่งของ ท่านก็สละสมบัติเหล่านั้นทั้งหมด ให้โดยไม่หวงแหน แม้ญาติหรือภรรยาจะคัดค้านก็ไม่หวั่นไหว
พระโพธิสัตว์ยืนยันว่าทรัพย์ที่สะสมมาย่อมมีค่าเมื่อได้ให้แก่ผู้อื่น
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
"ทรัพย์ที่เราได้มาด้วยธรรม ควรใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก
มิใช่ยึดไว้ด้วยความตระหนี่"
ตอนที่ ๔ จริยาที่ ๓ พระเจ้าธนญชัย และ จริยาที่ ๔ มหาสุทัศน
พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดเป็น พระเจ้าธนญชัย (ธนญชัยราชา) กษัตริย์ผู้มีธรรมปกครองบ้านเมืองด้วยความยุติธรรมและมีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตา
พระองค์ทรงสละ ราชทรัพย์อย่างมากมายเป็นทาน แม้จะถึงกับต้อง ขายเครื่องประดับของพระองค์เองและของพระมเหสี
ก็ยังไม่ยึดติด
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“เมื่อใดที่เห็นผู้ตกทุกข์ได้ยาก ขอให้ใจเรากระตือรือร้นต่อทานทันที”
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกษัตริย์ชื่อว่า พระมหาสุทัศนา ปกครองนครชื่อว่า อัมพติฏฐนคร
พระองค์ทรงครองราชย์ด้วยธรรมและความยุติธรรม มีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตาและทานบารมี
ต่อมา เมื่อพระองค์เห็นว่าตนได้สั่งสมบุญบารมีเพียงพอแล้ว และต้องการบำเพ็ญธรรมขั้นสูง
พระองค์จึง สละราชสมบัติและทรัพย์ทั้งหมดให้แก่ประชาชน
แล้วออกบวชเป็นฤๅษี บำเพ็ญพรตอยู่ในป่าด้วยความเงียบสงบ
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
"อำนาจและทรัพย์สินแม้ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่เท่าการพ้นจากกิเลส"
ตอนที่ ๕ จริยาที่ ๕ มหาโควินทพราหมณ์ และ จริยาที่ ๖ พระเจ้าเนมิราช
พระโพธิสัตว์เกิดเป็น พราหมณ์ผู้มีปัญญาชื่อว่า มหาโควินทะ
เป็นมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนักของกษัตริย์ทั้งเจ็ดพระองค์
ด้วยความสามารถ พระองค์ได้รับทรัพย์สินและเกียรติยศมากมาย
แต่เมื่อพิจารณาเห็นว่า ทรัพย์สมบัติไม่ใช่สิ่งเที่ยงแท้ และไม่ใช่หนทางสู่ความพ้นทุกข์
ท่านจึง สละทรัพย์ทั้งหมด แล้วออกบวชเป็นดาบสบำเพ็ญพรตในป่า
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“ผู้มีปัญญาควรสละเพื่อแสวงหาสิ่งที่ประเสริฐกว่า”
พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นกษัตริย์พระนามว่า พระเจ้าเนมิราช
ทรงปกครองโดยธรรม มีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตา ไม่ยึดมั่นในทรัพย์สมบัติหรืออำนาจ
พระองค์ทรงบำเพ็ญ ทานบารมี อย่างไม่ลังเล เมื่อมีผู้ใดมาขอ ทรงยินดีให้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เสื้อผ้า อาหาร
แม้สิ่งของส่วนพระองค์ เช่น เครื่องประดับของพระมเหสี หรือทรัพย์ของตนเอง ก็ทรงยินดีมอบให้ด้วยความเต็มใจ
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“ข้าพเจ้ายินดีให้ มิใช่เพราะถูกขอ แต่เพราะความเมตตา”
ตอนที่ ๖ จริยาที่ ๗ พระจันทกุมาร และ จริยาที่ ๘ พระเจ้าสิวิราช
พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นพระราชโอรส มีพระนามว่า พระจันทกุมาร
พระองค์เป็นกุมารผู้เปี่ยมด้วยศีลธรรม เมตตา และความกรุณาต่อผู้อื่น
วันหนึ่ง มี พราหมณ์ยากจน เดินทางมาขอพระราชทรัพย์จากพระองค์
แม้จะไม่ได้เป็นกษัตริย์หรือมีทรัพย์สินมากมาย แต่ พระจันทกุมารก็ไม่ลังเล
ทรงมอบ เครื่องประดับที่สวมอยู่และเสื้อผ้า ของพระองค์ให้โดยเต็มใจ
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“ข้าพเจ้าสละทรัพย์ที่ตนพอมี เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แม้ไม่มาก ก็ให้ด้วยความจริงใจ”
พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นกษัตริย์พระนามว่า พระเจ้าสิวิราช
ทรงเปี่ยมด้วยเมตตาและบำเพ็ญทานบารมีอย่างสูงสุด
วันหนึ่ง พระอินทร์ได้แปลงกายเป็น พราหมณ์ตาบอด มาขอ “ดวงตา”
พระเจ้าสิวิราช ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ทรงยินดี ควักลูกตาของพระองค์ ให้แก่พราหมณ์ด้วยความเต็มใจ
เพื่อช่วยให้เขามองเห็นได้ แม้จะต้องเสียตาของตนเองไปก็ตาม
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“แม้ดวงตาอันเป็นของรัก ข้าก็ยินดีสละ เพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์”
ตอนที่ ๗ พระเวสสันดร จริยาที่ ๙
พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดเป็นกษัตริย์พระนามว่า พระเวสสันดร ผู้มีพระทัยเอื้อเฟื้อ ชอบแจกทาน ไม่ยึดมั่นในทรัพย์สิน
พระองค์ทรงบริจาคทานอย่างไม่เลือกชนชั้น แม้จะ บริจาคช้างปัจจัยนาเคนทร์ (ช้างคู่บ้านคู่เมือง)
ก็ยังยินดีให้เมื่อมีผู้มาขอ → ชาวเมืองไม่พอใจและขับไล่พระองค์ออกจากเมืองไปอยู่ป่า แต่แม้ในป่า ก็ยังมีพราหมณ์ชื่อชูชกมาขอลูก
ทั้งสองของพระองค์ไปเป็นทาส พระเวสสันดรก็ยังยินดีบริจาคบุตรทั้งสอง เพื่อรักษาความตั้งมั่นในทานบารมี
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
"แม้สิ่งที่รักยิ่งอย่างลูก ก็ไม่อาจรั้งไว้เมื่อมีผู้ขอ"
ตอนที่ ๘ สสบัณฑิต จริยาที่ ๑๐ และ บทสรุป
พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดเป็นพญากระต่ายชื่อว่า สสบัณฑิต อาศัยอยู่ในป่ากับเพื่อสัตว์สหายอีก ๓ ตัว ต่างได้ตั้งสัจจะอธิษฐานกันว่าจะให้อาหารเป็นทานในวันอุโบสถ แต่พญากระต่ายโพธิสัตว์ไม่มีอาหาร จึงได้คิดจะมอบร่างกายเนื้อหนังของตนนั้นแหล่ะเป็นทาน แก่ผู้ที่มาขอเพื่อเป็นการสร้างทานบารมีอันยิ่งใหญ่
คำสอนของพระมหาโพธิสัตว์
“สิ่งใดเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น สิ่งนั้นควรให้”